เปิดรับผลงานถึงวันที่ 18 ตุลาคม 2567 เวลา 23.59 น.
ในปี 2567 นี้ สมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย ร่วมกับ คณะมนุษยศาสตร์และ สังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา จัดการประกวดเรื่องสั้นฉันทลักษณ์ ระดับชาติ ประจําปี 2567 โล่รางวัลพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อส่งเสริมให้ผู้มีใจรักงานกวีนิพนธ์ ได้สร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพออกสู่สังคมต่อไป
วัตถุประสงค์
- เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมสร้างสรรค์วรรณกรรมร้อยกรองกับสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย
- เพื่อส่งเสริมการแต่งร้อยกรองอย่างถูกต้องตามรูปแบบฉันทลักษณ์และสะท้อนภาพสังคมอย่างสร้างสรรค์
- เพื่อดําเนินตามเจตนารมณ์อันแน่วแน่และวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย
ผู้มีสิทธิ์ส่งประกวด
บุคคลทั่วไปมีสิทธิ์ส่งประกวด ยกเว้นกรรมการสมาคมและกรรมการที่ปรึกษาสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย สมัยปัจจุบัน
กติกาการประกวด
- เรื่องที่แต่งมีลักษณะเป็นเรื่องสั้น คือ มีองค์ประกอบที่ประกอบด้วย แนวคิดสําคัญเป็นเรื่องเดียว มีโครงเรื่องที่แสดงเรื่องราวของตัวละครเลียนแบบชีวิตจริง มีตัวละคร มีบทสนทนาของตัวละคร แสดงฉากและบรรยากาศของเรื่องสอดคล้องกับเนื้อเรื่อง ทั้งนี้ทุกองค์ประกอบต้องมีความสมจริง เรื่องสั้นที่ส่งเข้าประกวดต้องตั้งชื่อเรื่อง
- แต่งเรื่องด้วยคําประพันธ์ชนิดใดชนิดหนึ่ง หรือหลายชนิดหรือหลายประเภทรวมกัน และร้อยสัมผัสกันตั้งแต่ต้นจนจบ กําหนดให้ใช้คําประพันธ์ตามรูปแบบดั้งเดิมอย่างเคร่งครัด ทั้งโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ร่าย คําประพันธ์ใด ๆ ที่เกิดจากคําประพันธ์ทั้ง 5 ประเภทข้างต้น เช่น ลิลิต กาพย์ห่อโคลง กาพย์เห่ กวีวัจนะ ฯลฯ สามารถนํามาใช้ได้ หากจะแทรกกลอนเพลงพื้นบ้านจะต้องแสดงฉันทลักษณ์ประกอบให้เห็นชัดเจนในภาคผนวก กําหนดความยาวไม่เกิน 100 บท (การนับบทให้นับตามชนิดของคําประพันธ์นั้น ๆ) ทั้งนี้ กลอนเปล่าและคําประพันธ์รูปแบบอื่นนอกเหนือจากนี้ไม่อนุญาตให้นํามาใช้
- เนื้อเรื่องที่ส่งประกวด ให้เป็นเรื่องสมจริงสะท้อนภาพสังคมส่วนรวมในเชิงสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้นในสังคมระหว่างปี 2565 – 2567 เป็นสําคัญ เพื่อชี้ปัญหาหรืออาจเสนอแนะทางออกของปัญหาให้แก่สังคม และเพื่อเป็นการบันทึกเรื่องราวความเป็นไปในสังคมไว้ในแผ่นดิน
- การส่งต้นฉบับ ให้พิมพ์ด้วยฟอนต์ TH SarabunPSK 16 พอยต์ ลงในกระดาษ A4 วางรูปแบบการพิมพ์ตามรูปแบบฉันทลักษณ์ของคําประพันธ์นั้น ๆ
- การส่งไฟล์ ผู้ส่งผลงานทุกคนจะต้องส่งเอกสารตามข้อ 4. โดยมีต้นฉบับพร้อมทั้งทําสําเนาเอกสารรวม 5 ชุด ส่งตามที่อยู่ท้ายประกาศนี้และจะต้องส่งไฟล์ในรูป Microsoft word และ pdf ผ่านลิงก์ google form ภายในระยะเวลาที่กําหนด โดยตั้งชื่อไฟล์เป็นชื่อเรื่องตามด้วยชื่อผู้ประพันธ์ เช่น ปรากฏในผุกร่อน-บุณยเสนอ ตรีวิเศษ
- ต้องไม่เป็นผลงานที่ลอกเลียนมาจากผลงานของผู้อื่น ไม่เป็นผลงานที่เคยส่งประกวดหรือตีพิมพ์ หรือเผยแพร่โดยสื่อใด ๆ มาก่อน
- หากผลงานที่ส่งประกวดละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น ผู้ที่เป็นเจ้าของผลงานที่ส่งประกวดนั้นจะต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย ไม่เกี่ยวข้องกับสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย หากผลงานนั้นได้รับการตัดสินให้ได้รับรางวัลไปแล้ว ภายหลังปรากฏว่าละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น ผู้ได้รับรางวัลนั้นจะต้องคืนรางวัลทั้งหมดแก่สมาคม
- ระบุชื่อผลงาน นามปากกาและชื่อ-สกุลจริงของผู้เขียนพร้อมทั้ง Email, Facebook ที่อยู่จริง ที่อยู่ตามบัตรประชาชน และหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ไว้ที่หน้าแรกของผลงาน แล้วให้เริ่มบทแรกในหน้าถัดไปโดยไม่ต้องใส่ชื่อ-สกุลหรือนามปากกา และข้อมูลอื่นข้างต้นไว้ที่ส่วนหนึ่งส่วนใดของชิ้นงานอีก แต่จะต้องระบุชื่อเรื่องไว้ที่บรรทัดแรกของหน้ากระดาษทุกหน้า
- ผู้ส่งผลงานเข้าประกวดทุกคน ให้ถือว่ายอมรับเงื่อนไขและกติกาตามประกาศนี้โดยไม่มีข้อโต้แย้ง
- ผู้เข้าประกวด 1 คน สามารถส่งผลงานเข้าประกวดได้เพียง 1 เรื่อง
- ตัวอย่างงานเขียน ลักษณะของงานเขียนที่ส่งประกวดนี้จะต้องมีบทบรรยาย พรรณนา และบทสนทนา ตามลักษณะของงานเขียนประเภท “เรื่องสั้น” มิใช่ “นิทานคํากลอน” อาจมีลักษณะดังตัวอย่าง ต่อไปนี้ อ้อยบอกกับแม่ว่า “แม่จ๋าแม่ คุณหนุ่ยแกนัดหนูไปดูหนัง ให้หนูไปนะคะน่ะสักครั้ง ไม่ลําพังหรอกเพื่อนไปเหมือนกัน” แม่ห้ามอ้อย “อย่าไปไม่ดีหรอก ชาวบ้านตรอกเรานี่ทีจะหยัน พวกปากยาวสาวไส้ใครทั้งนั้น จะสําคัญผิดลูกดูถูกเอา”(แม่ของอ้อย: สุรศักดิ์ ศรีประพันธ์ ใน รื่นฤทัย สัจจพันธุ์. 2556. วรรณกรรมปัจจุบัน. พิมพ์ครั้งที่ 18. กรุงเทพ ฯ: สํานักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคําแหง. (หน้า 145 – 146)
- ต้นฉบับที่ส่งประกวดทั้งที่เป็นเอกสารและสื่อใด ๆ จะไม่ส่งคืนไม่ว่ากรณีใด ๆ
- การตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด
กําหนดส่งผลงาน/ลิขสิทธิ์ผลงาน
- ส่งได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 18 ตุลาคม 2567 ถือวันที่ฝากส่งจากไปรษณีย์ต้นทางเป็นสําคัญ ทั้งนี้จะต้องถึงปลายทางไม่เกินวันที่ 21 ตุลาคม 2567
- ผลงานที่ได้รับรางวัลทุกรางวัล ถือเป็นลิขสิทธิ์ของสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย ในการจัดพิมพ์ครั้งแรก ภายในระยะเวลา 3 ปี และการเผยแพร่รูปแบบอื่นเป็นเวลา 3 ปี
การส่งผลงาน
โครงการประกวดเรื่องสั้นฉันทลักษณ์
สมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย
รศ.ดร.บุณยเสนอ ตรีวิเศษ
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
439 ถนนจิระ ต.ในเมือง อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ 31000
โทรศัพท์ 08-4518-6262
แบบส่งผลงานผู้เข้าประกวดเรื่องสั้นฉันทลักษณ์
แบบส่งผลงานผู้เข้าประกวดเรื่องสั้นฉันทลักษณ์ ประจำปี 2567 https://docs.google.com/forms
การประกาศผล
- ประกาศผลผู้เข้ารอบ 10 คนสุดท้าย ภายในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2567 ประกาศบนหน้าเฟซบุ๊กแฟนเพจ ชื่อ สมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย และสื่ออื่น
- ประกาศผลรอบชนะเลิศ มอบรางวัลวันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 เวลาและสถานที่จะแจ้งให้ทราบภายหลัง (เว้นแต่จะเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น)
รางวัลการประกวด
- รางวัลชนะเลิศ โล่รางวัลพระราชทาน พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท และเกียรติบัตร
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 โล่เกียรติยศ พร้อมเงินรางวัล 7,000 บาท และเกียรติบัตร
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 โล่เกียรติยศ พร้อมเงินรางวัล 5,000 บาท และเกียรติบัตร
- รางวัลชมเชย 2 รางวัล รางวัลละ 3,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร
- รางวัลชมเชย 5 รางวัล พร้อมเกียรติบัตร
หมายเหตุ: รางวัลอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเห็นของคณะกรรมการตัดสินรอบสุดท้าย โดยอาจไม่มีผู้ได้รับรางวัลใดรางวัลหนึ่ง หรืออาจมีรางวัลใดรางวัลหนึ่งเพิ่มขึ้น หรือมูลค่าของรางวัลเพิ่มขึ้น แต่จะไม่ลดต่ําไปกว่าที่ประกาศไว้นี้
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
สมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย รศ.ดร.บุณยเสนอ ตรีวิเศษ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ 439 ถนนจิระ ต.ในเมือง อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ 31000 โทรศัพท์ 08-4518-6262
อ้างอิงจาก
Facebook : สมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย